ญี่ปุ่น…เสน่ห์ 4 ฤดูที่ไม่เคยซ้ำกัน

อากาศ : 10–20°C (กำลังเย็นสบาย)

เมื่อฤดูหนาวค่อย ๆ ล่าถอย อุณหภูมิที่เคยหนาวจัดจะเริ่มอุ่นขึ้นอย่างละมุน ฤดูใบไม้ผลิจึงถือเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ อากาศเย็นสบายส่งเสริมให้ผู้คนออกมานั่งปิกนิกใต้ต้นซากุระ บรรยากาศทั้งประเทศเหมือนถูกปัดฝุ่นจนสดใสขึ้นอีกครั้งดอกซากุระเริ่มบานจากพื้นที่อบอุ่นทางตอนใต้ เช่น ฟุกุโอกะ คิวชู ก่อนจะค่อย ๆ ไล่ขึ้นสู่ภูมิภาคคันไซ โตเกียว และบานช้าที่สุดในโทโฮคุหรือฮอกไกโด ทำให้การตามล่าซากุระเป็นกิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก นอกจากซากุระแล้ว ยังมีดอกไม้อีกหลายชนิดที่บานสะพรั่ง เช่น ดอกวิสทีเรียสีม่วงที่สร้างอุโมงค์สวยงามในสวน Kawachi Fuji Garden เมืองคิตะคิวชู หรือดอกนาโนะฮานะสีเหลืองสดในจังหวัดชิบะ เหมาะกับสายถ่ายรูปสุด ๆ

อากาศ : 25–35°C (อบอุ่น–ร้อนชื้น)

เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน ญี่ปุ่นจะเปลี่ยนเป็นดินแดนแห่งสีสันและพลังงาน ความร้อนอาจสูงขึ้น แต่บรรยากาศสนุกสนานของงานเทศกาลและกิจกรรมกลางแจ้งทำให้ฤดูนี้ได้รับความนิยมไม่น้อยกว่าฤดูอื่น กลางฤดูร้อนเป็นช่วงของงานเทศกาลดั้งเดิมหลายงาน เช่น Gion Matsuri ในเกียวโตที่มีประวัติยาวนานกว่าพันปี พร้อมขบวนรถลากขนาดใหญ่สวยงาม หรือ Tenjin Matsuri ที่โอซาก้า ซึ่งเป็นเทศกาลจัดแสดงดอกไม้ไฟริมแม่น้ำอย่างยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ยังมีเทศกาลดอกไม้ไฟนับไม่ถ้วนทั่วประเทศ เป็นช่วงเวลาที่คนญี่ปุ่นสวมชุดยูคาตะออกมาชมบรรยากาศยามค่ำคืนอย่างคึกคัก ฮอกไกโดเป็นจุดหมายที่ได้รับความนิยมสูงในฤดูร้อนเพราะอุณหภูมิเย็นกว่าภาคอื่น ทุ่งลาเวนเดอร์ที่ฟุราโนะและบิเอะจะบานเต็มที่ สร้างทิวทัศน์สีม่วงสวยเหมือนภาพวาด เหมาะกับคนที่ต้องการหลีกหนีความร้อนและเที่ยวแบบสบาย ๆ อีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญคือการปีน ภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเปิดให้ปีนเฉพาะฤดูร้อนเท่านั้น เส้นทางปลอดภัย อากาศดี และมีบริการครบครันเหมาะทั้งมือใหม่และสายผจญภัย

อากาศ : 10–20°C (เย็นกำลังดี)

ฤดูใบไม้ร่วงคือช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นสวยราวกับภาพวาด เพราะใบไม้ทั่วประเทศจะค่อย ๆ เปลี่ยนสีเป็นเฉดเหลือง ส้ม แดงพร้อมกัน ความงดงามนี้ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้เดินทางมาชม “โมมิจิ” หรือใบไม้แดงที่ขึ้นชื่อ ราวกับภูเขาและสวนสาธารณะได้สวมเสื้อคลุมสีทองและแดงสด ภูมิภาคโทโฮคุและฮอกไกโดจะเริ่มเปลี่ยนสีตั้งแต่เดือนกันยายน ส่วนเกียวโต นารา และโตเกียวจะอยู่ในช่วงพีคประมาณปลายตุลาคมถึงพฤศจิกายน โดยวัดดังในเกียวโต เช่น วัดคิโยมิสุเดระ วัดเออิคันโด และสวนคันเคโรคุเอน ต่างกลายเป็นภาพประทับใจจนยากลืมเลือน ฤดูนี้อากาศดีที่สุดของปี เย็นสบาย ไม่ร้อน ไม่หนาว และเป็นช่วงที่เหมาะสำหรับการเดินป่า เช่น คามิโคจิในนากาโนะ หรือเส้นทางต่าง ๆ ในภูมิภาคโทโฮคุ ที่ให้บรรยากาศสงบและโรแมนติกอย่างมาก

อากาศ : -5 ถึง 10°C (หนาวมาก โดยเฉพาะภาคเหนือ)

เมื่อหิมะเริ่มโปรย ญี่ปุ่นจะเปลี่ยนเป็นโลกสีขาวอันแสนโรแมนติก ฤดูหนาวเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อีกแบบหนึ่ง ทั้งบรรยากาศสงบ เงียบ และแฝงด้วยความอบอุ่นจากวัฒนธรรม การแช่ออนเซ็นท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ภูมิภาคฮอกไกโด นากาโนะ และนีงาตะจะกลายเป็นสวรรค์ของนักเล่นสกี รีสอร์ทจำนวนมากพร้อมลานหิมะคุณภาพระดับโลก เช่น นิเซโกะ ฟูราโนะ หรือฮากุบะ นอกจากนี้หมู่บ้านมรดกโลกอย่าง ชิราคาวาโกะ จะถูกปกคลุมด้วยหิมะจนกลายเป็นหมู่บ้านในเทพนิยายที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกใฝ่ฝันจะได้เห็นสักครั้ง ช่วงเดือนกุมภาพันธ์คือเวลาของ Sapporo Snow Festival เทศกาลหิมะที่จัดแสดงรูปสลักน้ำแข็งขนาดยักษ์อย่างอลังการ พร้อมแสงสีในช่วงกลางคืนที่สวยงามเกินบรรยาย ขณะที่ในเมืองใหญ่ เช่น โตเกียว หรือโอซาก้า จะมีงานประดับไฟทั่วเมือง เพิ่มความคึกคักในยามค่ำคืน

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่สามารถเดินทางได้ทั้งปี ไม่ว่าคุณจะชอบฤดูไหน ประเทศนี้ก็พร้อมจะมอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้เสมอ ฤดูใบไม้ผลิอบอุ่นสดใส ฤดูร้อนเต็มไปด้วยสีสันและเสียงหัวเราะ ฤดูใบไม้ร่วงโรแมนติกด้วยใบไม้แดง และฤดูหนาวเงียบงามท่ามกลางหิมะ แต่ละฤดูมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ทำให้นักเดินทางอยากกลับมาอีกครั้งและอีกครั้ง